“เสธ.หมึก” เยี่ยมนักปั่นทีมชาติ ก่อนลุยศึกซีเกมส์ ตั้งเป้า 6 เหรียญ

“เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี รองประธานสมาพันธ์จักรยานแห่งเอเชีย (ACC), ประธานสหพันธ์จักรยานแห่งอาเซียน (ACF) และนายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้เดินทางไปเยี่ยมนักกีฬาประเภทถนนทีมชาติไทยชุดเตรียมสู้ศึกซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ซึ่งเก็บตัวฝึกซ้อมอยู่ที่วังยาว ริเวอร์ไซต์ รีสอร์ต จังหวัดนครนายก เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน โดยพลเอกเดชาได้ให้โอวาทกับนักกีฬาว่าขอให้ตั้งใจฝึกซ้อม อยู่ในระเบียบวินัย เชื่อฟังโค้ช ที่สำคัญต้องดูแลรักษาสุขภาพให้ดี อย่าให้เจ็บป่วยหรือมีอาการบาดเจ็บ เนื่องจากเหลือเวลาประมาณ 1 เดือนเท่านั้น และขอให้ทุกคนทำหน้าที่ให้ดีที่สุด เพื่อสร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศไทย

หลังจากนั้น พลเอกเดชา เปิดเผยว่า วันนี้ตนได้เดินทางมาเยี่ยมนักกีฬาเพราะมีความเป็นห่วง เนื่องจากที่นี่มีฝนตกลงมาเกือบทุกวัน มีใครเจ็บป่วยหรือไม่ รวมถึงรับฟังปัญหาต่าง ๆ ว่านักกีฬาเขาต้องการอุปกรณ์อะไรเพิ่มเติม อุปกรณ์บางอย่างเสื่อมสภาพจากการโดนฝนโดนน้ำ สมาคมกีฬาจักรยานฯ ก็เร่งจัดซื้อมาให้ทันที โดยไม่ต้องรอการเบิกจ่ายตามระบบ เพราะถ้ารอก็คงไม่ทันการณ์ ส่วนเรื่องที่พักและอาหารการกินไม่มีปัญหาอะไร สะดวกสบายและอุดมสมบูรณ์ดีทุกอย่าง สภาพจิตใจนักกีฬาก็ดีไม่มีปัญหาอะไร แต่มีบางคนมีอาการบาดเจ็บเล็กน้อย เพราะนักกีฬาต้องปั่นขึ้นเขาเกือบทุกวัน ต้องให้นักกายภาพบำบัดของสมาคมฯ เข้ามาดูแล

พลเอกเดชา กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนเองได้เดินทางไปเยี่ยมนักกีฬาจักรยานประเภทเสือภูเขา ซึ่งเก็บตัวฝึกซ้อมอยู่ที่สวนสัตว์เปิดเขาเขียว จังหวัดชลบุรี ส่วนนักกีฬาประเภทลู่ตอนนี้เก็บตัวอยู่ที่เวลโลโดรม สนามกีฬาแห่งที่ 2 โรงเรียนกีฬาจังหวัดสุพรรณบุรี แต่ถ้าการปรับปรุงสนามเวลโลโดรม หัวหมาก เสร็จสิ้นในวันที่ 15 พฤศจิกายนนี้ นักกีฬาประเภทลู่ก็ย้ายมาซ้อมที่หัวหมากแทน สำหรับนักกีฬาประเภทบีเอ็มเอ็กซ์เก็บตัวอยู่ที่สวนกีฬากมล ถนนสุวินทวงศ์ ตอนนี้นักกีฬาก็ฝึกซ้อมได้ตามปกติ ส่วนเป้าหมายการคว้าเหรียญทองของทัพนักกีฬาจักรยานไทยก็ยังยืนยันอยู่ที่ 6 เหรียญทองเหมือนเดิม จากประเภทเสือภูเขา 2 เหรียญทอง บีเอ็มเอ็กซ์ 2 เหรียญทอง ประเภทถนน 1 หรือ 2 เหรียญทอง และประเภทลู่ 1 เหรียญทอง

“เสธ.หมึก” กล่าวต่อไปว่า สำหรับคู่แข่งที่น่ากลัวในประเภทถนนก็จะเป็นอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม โดยเฉพาะ “บีซ” ร.อ.หญิง จุฑาธิป มณีพันธุ์ ต้องเจอกับคู่ปรับเก่าอย่าง เหงียน ทิ ทัต ของเวียดนาม ส่วนประเภทลู่จะเป็นทีมชาติมาเลเซียซึ่งเขามีนักกีฬาดีกรีอดีตแชมป์โลก ประเภทเสือภูเขาก็มีทั้งอินโดนีเซีย และมาเลเซีย ด้านประเภทบีเอ็มเอ็กซ์ “เอ้” ส.ท.โกเมธ สุขประเสริฐ ต้องเจอกับนักปั่นฟิลิปปินส์ที่เคยไปฝึกซ้อมอยู่ที่ศูนย์ฝึกจักรยานโลก (WCC) ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ด้วยกัน อย่างไรก็ตาม ขอให้นักกีฬาไทยอย่าได้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เหมือนกรณีของโกเมธที่ไปแข่งขันชิงแชมป์เอเชีย 2025 ที่ประเทศญี่ปุ่น แล้วประสบอุบัติเหตุรถจักรยานล้มระหว่างฝึกซ้อม ทำให้ไม่สามารถลงแข่งขันได้ ตนจึงกำชับนักกีฬาว่าอย่าประมาทอย่างเด็ดขาด เพราะระยะเวลาเหลือไม่ถึง 1 เดือน

“ขอชื่นชมว่านักกีฬาจักรยานทีมชาติไทยชุดนี้อยู่ในระเบียบวินัยทุกคน ซึ่งสมาคมกีฬาจักรยานฯ ดูแลเอาใจใส่อย่างเต็มที่ ทั้งเรื่องที่พักอาหาร เบี้ยเลี้ยง อุปกรณ์ต่าง ๆ ไม่มีขาดตกบกพร่อง ส่วนจะประสบผลสำเร็จตามเป้าหมายหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับตัวนักกีฬาเอง ต้องร่วมแรงร่วมใจกันทำเพื่อสร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศชาติ และเป็นเกียรติแก่วงศ์ตระกูลของตัวเอง ขอแรงใจจากพี่น้องชาวไทยช่วยเชียร์นักกีฬาจักรยานทีมชาติไทยให้ประสบความสำเร็จในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ครั้งนี้ด้วยครับ ขอขอบคุณครับ” พลเอกเดชา กล่าว

ด้าน พ.อ.อ.พีระพล ชาวเชียงขวาง เป็นตัวแทนของนักกีฬาถนนชาย กล่าวว่า ทีมถนนชายเก็บตัวร่วมกันกว่า 6 เดือนแล้ว ซึ่งพวกเราฝึกซ้อมปั่นขึ้นเขาใหญ่ 6 วันต่อสัปดาห์ แต่ก็มีอุปสรรคบ้างในเรื่องสภาพอากาศที่มีฝนตกลงมาเกือบทุกวัน ส่วนสภาพร่างกายมีความสมบูรณ์ประมาณ 90% ระยะเวลาที่เหลือก็คงฟิตเต็ม 100 ก่อนลงแข่งขันพอดี ถ้าไม่มีความผิดพลาดหรือเหตุสุดวิสัยพวกเราน่าจะแสดงศักยภาพได้เต็มที่ และโอกาสที่จะคว้าเหรียญทองมีสูง ส่วนคู่แข่งที่สำคัญจะเป็นนักกีฬาอินโดนีเซียที่ปั่นขึ้นเขาเก่งเหมือนกันนักกีฬาไทย รวมถึงนักปั่นมาเลเซียซึ่งมาจากทีมอาชีพ มีประสบการณ์สูง ขอฝากพ่อแม่พี่น้องชาวไทยทุกคนช่วยส่งแรงใจเชียร์นักกีฬาจักรยานทีมชาติไทย พวกเราจะทำหน้าที่อย่างสุดความสามารถ

ขณะที่ “บีซ” จุฑาธิป กล่าวว่า ตนเองมีอาการบาดเจ็บที่สะโพกขวาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งก็ได้รักษามาตลอดตอนนี้อาการดีเกือบ 100% ตอนนี้ก็ฝึกซ้อมในระดับที่เข้มข้นขึ้นตามโปรแกรมของโค้ช ส่วนนักกีฬาทีมหญิงทุกคนก็มีสภาพร่างกายสมบูรณ์เต็มที่พร้อมเตรียมตัวลงสู้ศึกซีเกมส์ โดยได้ฝึกซ้อมเส้นทางแข่งขันจริงเกือบทุกวัน ซึ่งรายการไทม์ไทรอัลบุคคลหญิง “แพร” ส.อ.หญิง เพชรดารินทร์ สมราช จะซ้อมปั่นขึ้นเขาใหญ่ ส่วนตนเองเป็นตัวสปรินท์ก็ซ้อมโรดเรซและไครทีเรียมที่เป็นทางเรียบ รวมถึงนักปั่นคนอื่น ๆ ก็ซ้อมในเส้นทางจริง ตนคิดว่าได้เปรียบคู่ต่อสู้ในฐานะเจ้าภาพที่คุ้นเคยเส้นทางและสภาพอากาศ แต่เราจะไม่ประมาท เพราะนักกีฬาชาติอื่น ๆ ก็มีการพัฒนาขึ้นเช่นเดียวกัน เชื่อว่าหากนักกีฬาไทยซ้อมตามโปรแกรมที่โค้ชวางเอาไว้น่าจะประสบความสำเร็จตามเป้าหมายอย่างแน่นอน

“ขอฝากพี่น้องชาวไทยทุกท่านร่วมเป็นกำลังใจเชียร์นักกีฬาจักรยานทั้งทีมชายและทีมหญิง ไม่เพียงแต่ประเภทถนน แต่รวมไปถึงประเภทเสือภูเขา ประเภทบีเอ็มเอ็กซ์ และประเภทลู่ ผ่านช่องทางเฟซบุ๊กของสมาคมกีฬาจักรยานฯ Thailand Cycling Association และระหว่างการแข่งขันขอเชิญร่วมชมและร่วมเชียร์ที่สนามแข่งขัน ขอขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งมาให้ พวกเรานักกีฬาจักรยานจะทำหน้าที่ตัวแทนทีมชาติไทยให้ดีที่สุด เพื่อชื่อเสียงของประเทศไทย” จุฑาธิป กล่าวทิ้งท้าย.